ม.2 หลักฐานทางประวัติศาสตร์

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดต่อไปนี้มีความน่าเชื่อถือน้อยที่สุด

• A. บันทึกของผู้เห็นเหตุการณ์

• B. บทความวิชาการจากนักประวัติศาสตร์

• C. เรื่องเล่าที่ถ่ายทอดต่อกันมาหลายรุ่น

• D. จารึกที่ค้นพบในแหล่งโบราณคดี

การตรวจสอบที่มาของหลักฐานเป็นการประเมินในด้านใด

• A. ความสวยงาม

• B. ความเก่าแก่

• C. ความน่าเชื่อถือ

• D. ความสะเทือนอารมณ์

ข้อใดคือปัจจัยที่ใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือของหลักฐาน

• A. สีของกระดาษ

• B. แหล่งที่มาและผู้เขียน

• C. จำนวนคนที่เชื่อ

• D. ความยาวของเนื้อหา

การที่หลักฐานมีอคติส่งผลอย่างไร

• A. ทำให้ข้อมูลสนุกขึ้น

• B. ช่วยยืนยันเหตุการณ์ได้ดี

• C. บิดเบือนข้อเท็จจริง

• D. เพิ่มคุณค่าทางอารมณ์

หากพบข้อมูลขัดแย้งกันระหว่าง 2 แหล่ง ควรทำอย่างไร

• A. เลือกแหล่งที่มีภาษาสวยงาม

• B. เชื่อแหล่งที่เล่าเรื่องได้สนุกกว่า

• C. พิจารณาความน่าเชื่อถือของทั้งสองแหล่ง

• D. ปล่อยผ่าน ไม่ต้องใส่ใจ

ข้อใดคือ ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

• A. พระนเรศวรทรงเป็นวีรบุรุษ

• B. กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2310

• C. สมเด็จพระนารายณ์ทรงเป็นกษัตริย์ที่เก่งที่สุด

• D. ชาวต่างชาติต่างเกรงกลัวไทย

ข้อใดแสดงถึง ความจริง มากกว่าข้อเท็จจริง

• A. อยุธยาเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในอาเซียน

• B. พระนเรศวรทรงรักประชาชน

• C. สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มในปี พ.ศ. 2482

• D. รัชกาลที่ 5 ทรงเลิกทาส

คำว่า "ความจริง" ในประวัติศาสตร์หมายถึงอะไร

• A. เหตุการณ์ที่คนส่วนมากจำได้

• B. ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์

• C. เหตุการณ์ที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับอย่างกว้างขวาง

• D. เรื่องเล่าที่ไม่มีหลักฐาน

ทำไมต้องแยกแยะระหว่างข้อเท็จจริงกับความจริง

• A. เพื่อความบันเทิงในการศึกษา

• B. เพื่อสร้างเรื่องราวให้สนุก

• C. เพื่อเข้าใจเหตุการณ์อย่างถูกต้อง

• D. เพื่อเลือกฝ่ายที่ถูกต้องในประวัติศาสตร์

ข้อใดต่อไปนี้เป็น “ความคิดเห็น” ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

• A. พระยาตากสินกู้เอกราชในปี พ.ศ. 2310

• B. รัชกาลที่ 9 เสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2489

• C. พระนเรศวรทรงกล้าหาญที่สุดในสมัยอยุธยา

• D. สงครามเวียดนามเกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น