กลอนเป็นคำประพันธ์ที่มีมาแต่เดิม เชื่อกันว่าเป็นคำประพันธ์ท้องถิ่นของภาคกลางและภาคใต้ ใช้ในการแต่งบทร้องเล่น บทกล่อมเด็ก และเพลงพื้นบ้านต่าง ๆ ต่อมามีกาการพัฒนาตามลำดับและเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีกวีหลายคนที่มีความชำนาญในการแต่งกลอน เช่น สุนทรภู่

กลอน ๑ บท จะมี ๒ บาท บาทที่ ๑ เรียกว่าบาทเอก บาทที่ ๒ เรียกว่าบาทโท

• บาทสาม

• บาทสี่

• บาทห้า

• บาทเอก และ บาทโท

กลอน ๑ บท จะมี ๒ วรรค กลอน ๑ บท จะมี ๔ วรรค แต่ละวรรคมีชื่อเรียกดังนี้ วรรคที่ ๑ เรียกว่าวรรคสดับหรือวรรคสลับ วรรคที่ ๒ เรียกว่าวรรครับ วรรคที่ ๓ เรียกว่าวรรครอง วรรคที่ ๔ เรียกว่าวรรคส่ง

สัมผัสคือ ค ําคลองจองกัน ซึ่งส ําคัญที่สุดในกํารแต่งกลอน สัมผัสจะช่วยให้กลอนไพเรําะ สัมผัสแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด -สัมผัสสระ คือ ค ําที่มีเสียงสระเดียวกันหรือค ําที่มีเ

สัมผัสคืออะไร?

• การจัดเรียงคำ

• การทำให้กลอนมีเสียงไพเราะ

• การใช้คำที่มีเสียงสระเดียวกัน

• การใช้คำที่มีเสียงพยัญชนะต้นเดียวกัน

สัมผัสแบ่งออกเป็นกี่ชนิด?

• หนึ่งชนิด

• สองชนิด

• สามชนิด

• สี่ชนิด

สัมผัสบังคับมีประเภทอะไรบ้าง?

• สัมผัสนอกและสัมผัสใน

• สัมผัสนอกและสัมผัสระหว่างบท

• สัมผัสนอกและสัมผัสไม่บังคับ

• สัมผัสนอกและสัมผัสพยัญชนะ

สัมผัสระหว่างบทคืออะไร?

• สัมผัสที่อยู่ในวรรคเดียวกัน

• สัมผัสที่ส่งต่อจากบทหนึ่งไปยังอีกบทหนึ่ง

• สัมผัสที่มีเสียงสระเดียวกัน

• สัมผัสที่มีเสียงพยัญชนะต้นเดียวกัน

สัมผัสไม่บังคับคืออะไร?

• สัมผัสที่อยู่ในแต่ละวรรค

• สัมผัสที่มีเสียงพยัญชนะเดียวกัน

• สัมผัสที่มีเสียงสระเดียวกัน

• สัมผัสที่ไม่ต้องใช้

สัมผัสไม่บังคับ คือ สัมผัสสระหรือสัมผัสพยัญชนะที่อยู่ในแต่ละวรรคที่เรียกว่ํา “สัมผัสใน” เป็นสัมผัสที่เพิ่มควํามไพเรําะของกลอน