คำนามคือส่วนของประโยคที่ใช้เรียกชื่อสิ่งต่าง ๆ หรือคน ๆ นั้น

• คำวิเศษณ์

• คำสรรพนาม

• คำนาม

• คำกริยา

การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับบทบาทของคำนามนั้น ๆ

• คำนามไม่จำเป็นต้องเป็นส่วนสำคัญของประโยค

• คำนามไม่จำเป็นต้องมีความหมายที่ชัดเจน

• คำนามไม่จำเป็นต้องเหมาะสมกับบทบาทที่ถูกกำหนด

• คำนามต้องเป็นส่วนสำคัญของประโยคและต้องเหมาะสมกับบทบาทที่ถูกกำหนด

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่เป็นเพียงคนละอย่าง ๆ จะต้องใช้คำนามในรูปเอกพจน์

• คำนามเอกพจน์

• คำกริยา

• คำนามพหุนาม

• คำนามเอกพจน์

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่มีมากกว่าหนึ่งอย่าง จะต้องใช้คำนามในรูปพหูพจน์

• พหูพจน์

• พหูพจน์ที่ห้า

• พหูพจน์ที่สี่

• พหูพจน์ที่สาม

การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคไม่จำเป็นต้องเหมาะสมกับเพศของคำกริยานั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคไม่จำเป็นต้องเหมาะสมกับเพศของคำนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำกริยานั้น ๆ

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่เป็นเพียงคนละอย่าง ๆ จะต้องใช้คำนามในรูปเอกพจน์

• คำนามเอกพจน์

• คำนามประสม

• คำนามพหุนาม

• คำนามเอกพจน์

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่มีมากกว่าหนึ่งอย่าง จะต้องใช้คำนามในรูปพหูพจน์

• พหูพจน์ที่ห้า

• พหูพจน์ที่สาม

• พหูพจน์ที่สี่

• พหูพจน์

การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำกริยานั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำสรรพนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำนามนั้น ๆ

• การใช้คำนามในประโยคต้องเหมาะสมกับเพศของคำคุณศัพท์นั้น ๆ

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่เป็นเพียงคนละอย่าง ๆ จะต้องใช้คำนามในรูปเอกพจน์

• คำนามเอกพจน์

• คำนามพหุนาม

• คำนามเอกพจน์

• คำกริยา

คำนามที่ใช้เรียกชื่อสิ่งของที่มีมากกว่าหนึ่งอย่าง จะต้องใช้คำนามในรูปพหูพจน์

• พหูพจน์ที่สี่

• พหูพจน์

• พหูพจน์ที่ห้า

• พหูพจน์ที่สาม