การป้องกันการทุจริต (ระดับ ม.ต้น)

1. ความสำคัญของการคิดแยกแยะคือข้อใด

•     ก.  เป็นการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้น

•    ข.  ช่วยให้มองเห็นปัญหาต่างๆ ได้ดี

• ค.  เป็นแนวทางในการหลีกเลี่ยงหรือป้องกัน

          ปัญหาในอนาคต

•     ง.  ช่วยให้บุคคลคิดหาแนวทางในการหลีกเลี่ยง

          หรือป้องกันปัญหาได้

2. ข้อใดหมายถึง การกระทำที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม

• ก.  เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้เครื่องพิมพ์ของสำนักงาน

          พิมพ์รายงานส่งอาจารย์

•    ข.  ใช้เครื่องตัดหญ้าของหน่วยงานรัฐไปตัดหญ้า

          ที่บ้านของหน้า

•     ค.  เก็บใบไม้แห้งจากสวนไปทำปุ๋ยหมักนำมาใช้

          ในหมู่บ้าน

•    ง.  ยืมเก้าอี้จากหน่วยงานของรัฐไปใช้จัดงานบวช

          ที่บ้าน

3.  เป้าหมายของกระบวนการคิดเป็น คือข้อใด

•     ก.  ความสุข

•     ข.  การคิดเป็น

•     ค.  การประเมิน

•    ง.  แก้ปัญหาเป็น

4. ข้อใดไม่ใช่กระบวนการคิดเป็น เพื่อนำมาใช้ในการป้องกันการทุจริต

   

•     ก.  ขั้นสำรวจปัญหา

• ข.  ขั้นวิเคราะห์ปัญหา

•     ค.  ขั้นตัดสินใจไปสู่การปฏิบัติ

•     ง.  ขั้นอบรมคุณธรรม จริยธรรม

5. “นาย ก เป็นข้าราชการเกษียณ ต่อมาได้เป็น   สมาชิกสภาเทศบาล รู้ล่วงหน้าจากการประชุมสภาว่า สภาเทศบาลอนุมัติให้ตัดถนนผ่านชุมชนแห่งหนึ่ง นาย ก. จึงได้ไปกว้านซื้อที่ดินบริเวณที่ถนนตัดผ่านเพื่อเก็งกำไรที่ดิน” จากข้อความข้างต้น พฤติกรรมของนาย ก เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนรูปแบบใด

 

•      ก.  การรู้ข้อมูลภายใน

•      ข.  การรับประโยชน์ต่างๆ

•   ค.  การทำงานหลังเกษียณ

•    ง.  การทำธุรกิจของตนเอง

6. กรณี นาย ก. ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในธนาคารพาณิชย์เอกชนแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และบริษัท ซึ่งมีภรรยาของ นาย ก  ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ได้มาขอสินเชื่อจากธนาคารที่ นาย กทำงานอยู่  แต่ขาดคุณสมบัติของผู้กู้ตามที่ธนาคารกำหนด อยากทราบว่านาย ก  จะต้องปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด

• ก.      แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาวงเงินสินเชื่อ

  ของบริษัท A  แต่มีเงื่อนไขอนุมัติภายในวงเงินร้อยละ 50

• ข.      แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาวงเงินสินเชื่อ

  ของบริษัท A  เต็มจำนวน

• ค.      กำหนดให้บริษัท A  นำหลักทรัพย์ค้ำประกัน

  สินเชื่อมากกว่าปกติ

•    ง.  ไม่อนุมัติวงเงินสินเชื่อ

7.  พฤติกรรมในข้อใดเป็นการไม่ทนต่อการทุจริตหรือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

• ก.      ประณามต่อสาธารณชนทุกครั้งที่พบเรื่อง

  ไม่ถูกต้อง

•     ข.  แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีที่พบเห็นการแซงคิว

•   ค.  บอกผู้แซงคิวให้ทราบและไปต่อท้ายแถว

•    ง.  ไม่สนใจถ้าเราไม่เดือนร้อน

8.  ผู้เรียนควรปฏิบัติตนอย่างไรในการสอบ

•     ก.  ลอกข้อสอบ หรือถามคำตอบจากเพื่อนผู้เรียน

•     ข.  จดคำตอบใส่กระดาษแอบซ้อนไว้ในกระเป๋า

•     ค.  ให้ผู้เข้าสอบคนอื่นคัดลอกคำตอบของตน

•     ง.  ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับการสอบ

9.  พฤติกรรมในข้อใดที่แสดงว่าเป็นผู้ขาดความละอาย

•     ก.  ข้ามถนนบนทางม้าลาย

•     ข.  การแอบรับเงินจากผู้สมัคร อบต.

•    ค.  พ่อช่วยหาเสียงให้ลูกที่สมัคร ส.ส.

•   ง.  ผู้สมัคร ส.ส. เดินหาเสียงในตลาด

10.  บุคคลจะเกิดความละอายต่อการทุจริต ควรเริ่มต้นจากข้อใดเป็นสำคัญ

•       ก.  ความฉลาดรู้

•       ข.  ความกลัวผู้อื่นรู้

•       ค.  ความตระหนักถึงผลเสีย

• ง.  ความก้าวหน้าในการทำงาน