U- Q 2

๑.นางน้อยต้องการจะฆ่านางหลวง จึงไปดักรอฆ่านางหลวงอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน เมื่อเห็นนางหลวงเดินมา นางน้อยยกปืนจ้องเล็งกำลังจะยิงนางหลวง นายชายเพื่อนของนางหลวงเห็น ควักปืนของตนออกมายิงนางน้อย ทำให้นางน้อยถูกกระสุนปืนของนายชายถึงแก่ความตาย นายชายมีความรับผิดทางอาญาหรือไม่

• มี เพราะนายชายมีเจตนายิงนางน้อยอันเป็นเจตนาฆ่า เมื่อนางน้อยตาย นายชายมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
• ไม่มี เพราะนายชายจำเป็นต้องกระทำ เพราะหากไม่ยิง นางหลวงก็จะถูกนางน้อยยิงตาย ทำให้นายชายไม่มีทางเลือก เป็นการกระทำด้วยความจำเป็น
• ไม่มี เพราะการที่นายชายยิงนางน้อย เพื่อป้องกันนางหลวงจากการที่จะถูกนางน้อยยิงถือเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
• มี เพราะนายชายไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการป้องกันมิให้นางหลวงถูกยิงตาย

๒.โจทก์ฟ้องหย่าจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยต่อศาลใด

• ศาลที่เป็นสถานที่ที่เหตุฟ้องหย่าเกิดขึ้น
• ศาลที่เป็นสถานที่ที่จดทะเบียนสมรสกัน
• ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล
• ศาลที่เป็นสถานที่ที่คู่สมรสทำร้ายร่างกายกัน

๓.ข้อใดไม่ใช่ฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข

• โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก ๓ ปีและฟ้องแย้งว่าถ้าต้องออกจากตึกก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและให้ค่าขนย้าย กับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่
• โจทก์ฟ้องขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน และฟ้องแย้งขอให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนต่อไปอีก ๓ ปี
• โจทก์ฟ้องขอหย่าโดยอ้างเหตุหย่าตามกฏหมาย จำเลยให้การว่ามิได้กระทำดังกล่าวขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอให้แบ่งสินสมรส
• โจทก์ฟ้องเรียกคืนที่ดินและโฉนดที่ดินและให้จำเลยชดใช้ราคาที่ดิน จำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยมีสิทธิในที่ดิน และโฉนดที่ดิน ขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งว่า หากจำเลยต้องคืนที่ดิน โจทก์ต้องคืนเงินที่จำเลยชำระเป็นค่าที่ดินคืนให้แก่จำเลย

๔.นายเขียวและนายขาวสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน ต่อมานายเขียวใช้ไม้ตีศีรษะนายขาวอย่างแรงหลายครั้งจนนายขาวถึงแก่ความตาย พนักงานอัยการฟ้องนายเขียวข้อหาฆ่าผู้อื่น นายครรชิต บิดาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของนายขาว ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ และคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้หรือไม่

• ไม่ได้ เพราะนายครรชิตเป็นบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจจัดการแทนนายขาวได้
• ได้ เพราะนายขาว ผู้เสียหาย ถูกทำร้ายถึงตาย นายครรชิตมีอำนาจจัดการแทนนายขาวได้
• ไม่ได้ เพราะนายขาวไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย นายครรชิตไม่มีอำนาจจัดการแทนนายขาวได้
• ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมไม่ได้ เพราะนายขาวไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย แต่ยื่นร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ เพราะนายขาวถูกโต้แย้งสิทธิในทางแพ่ง

๕.โจทก์ฟ้องจำเลยฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ , ๓๒๘ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๘ มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง นายจอม ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นคนเดียวเป็นองค์คณะพิจารณา และได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ นายจอมผู้พิพากษาคนเดียวมีอำนาจพิจารณาและพิพากษายกฟ้อง ได้หรือไม่

• พิจารณาได้ เพราะผู้พิพากษาคนเดียวมีอำนาจไต่สวนมูลฟ้อง แต่พิพากษาคนเดียวไม่ได้ เพราะเกินอำนาจผู้พิพากษาคนเดียวที่จะพิพากษายกฟ้องได้
• พิจารณาและพิพากษาคนเดียวไม่ได้ เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษปรับเกิน ๖๐,๐๐๐ บาท จึงต้องมีองค์คณะอย่างน้อย ๒ คน
• พิจารณาและพิพากษาคนเดียวได้ เนื่องจากอัตราโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๘ ไม่เกินอำนาจของผู้พิพากษาคนเดียวที่กระทำได้
• ไม่มีข้อใดถูก