สุขภาพกับการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ม.2

ข้อใดไม่ใช่ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสม

• ผลการเรียนแย่ลงจากการติดเกมส์

• ปวดหลังจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน

• เกิดพฤติกรรมเลียนแบบที่ไม่ดีจากการดูละคร

• สายตาล้าจากการจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

ข้อใดไม่ใช่ผลเสียต่อสุขภาพจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน

• ตาแห้ง

• นอนไม่หลับ

• จอประสาทตาเสื่อม

• เส้นเลือดในสมองตีบ

ข้อใดเป็นวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

• นั่งในที่แสงสว่างเพียงพอและใช้งานไม่เกิน 3 ชั่วโมง

• วางคอมพิวเตอร์ต่ำกว่าระดับสายตาเพื่อการมองเห็นที่เหมาะสม

• วางคอมพิวเตอร์ในมุมอับเพื่อป้องกันแสงจากธรรมชาติจนทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ร้อน

• ใช้คอมพิวเตอร์ในอิริยาบถเดิม ไม่เปลี่ยนท่าบ่อยเพราะจะทำให้กล้ามเนื้อไม่ชินจนเกิดอาการปวด

ในปัจจุบันอุปกรณ์เทคโนโลยีใดน่าจะเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของวัยรุ่นมากที่สุด

• ทีวี เพราะต้องติดตามข่าวสารและกระแสสังคม

• โทรศัพท์มือถือ เพราะใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น

• คอมพิวเตอร์ เพราะใช้ในการทำงานรวมถึงติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นได้

• แท็บเล็ต เพราะใช้อำนวยความสะดวกในการเรียนและติดต่อสื่อสาร

ข้อใดไม่ใช่ผลเสียต่อสุขภาพจากการนั่งดูโทรทัศน์เป็นเวลานาน

• เอ็นข้อมืออักเสบ

• อยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น

• สายตาเสื่อมก่อนวัย

• เกิดภาวะโรคอ้วนได้

ไม่ควรนำภาชนะที่ทำจากวัสดุชนิดใดเข้าอุ่นอาหารในไมโครเวฟ

• แก้ว

• เซรามิค

• เมลามีน

• พลาสติกประเภท PP และ PET

การเติมไอโอดีนลงในเกลือสินเธาว์ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านใด

• การรักษาโรค

• การป้องกันโรค

• การฟื้นฟูสุขภาพ

• การสร้างเสริมสุขภาพ

การพัฒนาวัคซีนถูกจัดว่าเป็นการใช้ความเจริญก้าวหน้าในทางการแพทย์สำหรับป้องกันโรคเพราะเหตุใด

• เพราะวัคซีนช่วยทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย

• เพราะวัคซีนช่วยให้มีภูมิต้านทานสำหรับโรคนั้น ๆ

• เพราะวัคซีนช่วยฟื้นฟูให้เซลล์ในร่างกายมีความแข็งแรง

• เพราะวัคซีนช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ยาในสูตรใดถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการรักษาโรค

• ARV

• PEP

• PrEP

• ไม่มีข้อใดถูก

ข้อใดเป็นการฟื้นฟูสุขภาพโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนร่วม

• การทำฟันปลอม

• การผ่าตัดเสริมหน้าอก

• การต่อเส้นผมโดยผมจริง

• การเดินช้า ๆ เพื่อทำกายภาพบำบัด