คำกริยา

ข้อใดมีสกรรมกริยา

• เขาสูงเท่าพี่

• เขาวิ่งตอนเช้า

• ฉันเห็นเขาอยู่ในบ้าน

• ฝนตกตอนเย็นทุกวัน

คำกริยาในข้อใดไม่จำเป็นต้องมีกรรมมารองรับ

• นกบิน

• พี่ซักผ้า

• น้องล้างรถ

• พ่อดื่มน้ำ

ข้อใดไม่มีกริยานุเคราะห์

• เขาต้องตื่นเช้า

• เขาคงมาถึงตอนเช้า

• เขาอาจจะกลับตอนเย็น

• เขาดูหนังที่สยามพารากอน

คำกริยาในข้อใดต้องการส่วนเติมเต็ม

• เขาเป็นชาวต่างชาติ

• แมวนอนอยู่ในห้อง

• เด็ก ๆ ชอบกินไอศกรีม

• ห้างเปิดตั้งแต่ 10:๐๐ น.

คำกริยาในข้อใดต้องมีกรรมมารองรับ

• เขาเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน

• ห้องนี้ใหญ่เท่าห้องนั้น

• คุณแม่ซื้อขนมครกมาให้พวกเรา

• พวกเราจะนอนที่นี่

“ฉันจ้องมองท้องฟ้า”  ประโยคใดมีชนิดของคำกริยาเหมือนประโยคที่กำหนดให้

• เมฆดำก้อนใหญ่ลอยต่ำ

• ชาวนารีบต้อนควายเข้าคอก

• ใบไม้ปลิวว่อนตามสายลม

• ฝนเริ่มตกโปรยปรายสู่พื้นดิน

ประโยคในข้อใดใช้คำกริยาอกรรมทั้งหมด

• ฉันออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ

• พ่อมักดื่มกาแฟขณะอ่านหนังสือพิมพ์

• แม่เก็บดอกมะลิมาร้อยพวงมาลัย

• ปู่บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียน

ประโยคใดมีชนิดของคำกริยาแตกต่างจากประโยคอื่น

• คุณยายสวดมนต์ก่อนนอน

• คุณแม่รดน้ำต้นไม้ก่อนทำอาหาร

• นักเรียนทบทวนหนังสือก่อนสอบ

• คุณพ่อคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนขับรถ

คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นกริยาสกรรม

• พวกตัดไม้ยังตัดกันไม่หยุด

• วัวแดงตัวนั้นล้มจมพงหญ้า

• ฝนตกหนักทุกวันอย่างไม่ลืมหูลืมตา

• ไม้สักทองหลายต้นขึ้นในที่นาของลุง

คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นกริยาอกรรม

• สายลมแรงโยกกิ่งก้านต้นไม้ให้ไหวเอน

• แม่ใช้พัดลมเป่าผมให้แห้งสนิทก่อนนอน

• เรือใบแล่นเลยท่าไปอย่างรวดเร็วเพราะลมแรง

• พวกเราต่างพากันถอดรองเท้าออกไว้ข้างบันได