1. ข้อใด ไม่ใช่ คำที่มาจากภาษาบาละและภาษาสันสกฤต

• ก. เราต้องใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง

• ข. อย่าเลี้ยงลูกให้เป็นเทวดา

• ค. ชื่อของเขาอยู่ในทำเนียบรุ่น

• ง. ภรรยาเขาทำงานอยู่ที่นี่

2. ข้อใด ไม่ใช่ คำที่มาจากภาษาสันสกฤต

• ก. ร้านศรีวิชัย สินทรัพย์ธานี

• ข. ศึกยุทธหัตถี หมู่บ้านโอฬาร

• ค. หมู่บ้านกฤษฎา เมืองทองนิเวศน์

• ง. หอศิลป์เจ้าฟ้า องค์การเภสัชกรรม

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของภาษาบาลี

• ก. มีพยัญชนะ 32 ตัว

• ข. มีหลักการใช้ตัวสะกดแน่นอน

• ค. นิยมใช้คำควบกล้ำ

• ง. มีสระน้อยกว่าภาษาสันสกฤต 6 ตัว

4. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นคำที่มาจากภาษาบาลี

• ก. แต่ละคนได้ตั้งใจศึกษาศิลปวิทยา

• ข. ชายสามคนที่เป็นลูกของตระกูลคฤหบดี

• ค. คนที่ประกอบมิจฉาชีพกลับมีเงินมีทองใช้

• ง. บุคคลที่ไม่ตั้งใจอยู่ในสัตย์ธรรมย่อมเป็นศัตรูต่อผู้อื่น

5. ประโยคในข้อใด ไม่มี คำบาลีสันสกฤตอยู่เลย

• ก. เธอก็เป็นคนมีปัญญาและความสามารถ

• ข. ท้องฟ้ามืดมิดหม่นหมองไปทั่ว

• ค. อารยธรรมแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน

• ง. มิตรภาพที่ดีไม่ต้องซื้อด้วยเงิน

6. ข้อใดไม่ใช่ประเภทการสนธิ

• ก. วรรณยุกต์สนธิ

• ข. พยัญชนะสนธิ

• ค. สระสนธิ

• ง. นฤคหิตสนธิ

7. คำสนธิในข้อใดเป็นการตัดสระพยางค์ท้ายคำหน้า และใช้สระพยางค์ต้นของคำหลัง โดยเปลี่ยนสระพยางค์ต้นของคำหลัง

• ก. พงศาวตาร

• ข. กิตติยากร

• ง. ธันวาคม

• ง. สามัคยาจารย์

8. ข้อใดมีคำสนธิ 2 คำ

• ก. นครินทร์ มหิทธิ มหัศจรรย์

• ข. ราชานุสรณ์ จุฬาลงกรณ์ หัสดาภรณ์

• ค. อินทรธิบดี มโนภาพ หิมาลัย

• ง. ธนาคาร ราโชวาท ปัญญา

9. ข้อใดมีคำสนธิ 1 คำ

• ก. สินธวาณัติ ศิลปาชีพ

• ข. กุศโลบาย ราโชบาย

• ค. ชลาลัย สุโขทัย

• ง. สังคม จุลสาร

10. ข้อใดไม่ใช่คำสนธิ

• ก. เทพบุตร

• ข. สิงหาคม

• ค. ทรัพยากร

• ง. ทุรชาติ