Plant Biology

ปากใบมีหน้าที่ตามข้อใด

• คายน้ำปล่อยออกซิเจน

• คายน้ำปล่อยออกซิเจนรับคาร์บอนไดออกไซด์

• คายคาร์บอนไดออกไซด์รับออกซิเจน

• คายน้ำ

เซลล์คุมเปลี่ยนแปลงจากเซลล์ใด

• stoma

• parenchyma

• xylem

• epidermis

ข้อใต่อไปนี้ไม่ใช่หน้าที่ของเนื้อเยื้อเจริญส่วนปลาย

• ทำให้รากและลำต้นขยายขนาดใหญ่ขึ้น

• สร้างลำต้น กิ่งใบ

• แบ่งเซลล์ให้รากยาวขึ้น

• ลำต้น กิ่ง ยาวขึ้น

เนื้อเยื้อใดต่อไปนี้เป็นเนื้อเยื้ออยู่ชั้นนอกสุด

• สเกลอเรงคิมา

• คลอเรงคิมา

• พาเรงคิมา

• เอพิเดอร์มิส

เนื้อเยื้อชั้นใดต่อไปนี้ที่มีการเรียงตัวของเซลล์แล้วเกิดช่องว่างระหว่างเซลล์

• สเกลอเรงคิมา

• คอเลงคิมา

• พาเรงคิมา

• เอพิเดอร์มิส

ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของ Xylem

• ลำเลียงอาหารที่สังเคราะห์ได้จากใบสู่ส่วนต่างๆ

• ลำเลียงอาหารที่ได้จากรากสู่ส่วนต่างๆ

• ลำเลียงน้ำ-ธาตุอาหารจากรากสู่ลำต้น

• ลำเลียงน้ำ-ธาตุอาหารที่สังเคราะห์ได้จากใบสู่ส่วนต่างๆ

ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่เซลล์ที่เป้นประกอบของ Phloem

• เทรคีด

• ไฟเบอร์

• คอมพาเนียน

• ซีฟทิวบ์เมมเบอร์

โครงสร้างของพืชที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบได้กับทางเดินอาหารในสัตว์คือ

• ราก

• ไซเลม

• วาสคิวลาร์บันเดิล

• โฟลเอ็ม

ในกลุ่มท่อลำเลียงน้ำ ท่อลำเลียงอาหารของพืชมีเซลล์ชนิดหนึ่งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงน้ำและอาหาร เซลล์ชนิดนี้ คือ

• เซลล์คอมพาเนียน

• เซลล์ไฟเบอร์

• เซลล์เทรคีด

• เซลล์ซีฟทิวบ์เมมเบอร์

เนื้อเยื่อถาวรเชิงเดี่ยว ซึ่งพบมากตามกะลามะพร้าว เปลือกหุ้มเมล็ดมะขามและเนื้อของพุทรา คือ

• พาเรงคิมา

• คอลเรงคิมา

• สเกลอเรงคิมา

• เอพิเดอร์มิส