แบบทดสอบทุกข์ของชาวนาในบทกวี

“ทุกข์ของชาวนาในบทกวี” มาจากหนังสือรวมบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่องใด

• ดั่งดวงแก้ว

• บุหงารำไป

• ความคิดคำนึง

• มณีพลอยร้อยแสง

“ทุกข์ของชาวนาในบทกวี” มีวิธีการเปิดเรื่องอย่างไร

• เล่าเรื่องราวในอดีต

• แนะนำให้รู้จัก จิตร ภูมิศักดิ์

• ยกย่องบทกวีที่จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผู้แต่ง

• บอกที่มาของบทกวีที่จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผู้แต่ง

สรรพนามในบทกวี ของจิตร ภูมิศักดิ์ ที่ใช้ว่า "กู" หมายถึงใคร

• ผู้เขียน

• ชาวนา

• ผู้อ่าน

• ไม่เจาะจงว่าใคร

การที่หลี่เชินสามารถบรรยายความทุกข์ยากของชาวนาได้อย่างชัดเจน เพราะเขาประกอบอาชีพอะไร

• ค้าขาย

• เกษตรกร

• ผู้นำหมู่บ้าน

• ข้าราชการส่วนท้องถิ่น

เทคนิคการเขียนของหลี่เชิน มีลักษณะอย่างไร

• บรรยายภาพเหมือนจิตรกรวาดภาพ

• บรรยายสิ่งที่คนพบเห็นมาให้ผู้อ่านเข้าใจ

• บรรยายแบบอธิบายขั้นตอนในการทำนาของชาวนา

• .บรรยายโดยถ่ายทอดเสมือนชาวนาเป็นผู้มาบรรยายเอง

แนวความคิดของจิตร ภูมิศักดิ์ และหลี่เชิน

มีความสอดคล้องกันอย่างไร

• ให้เวทนาชาวนา

• ให้ช่วยเหลือชาวนา

• ให้ประกอบอาชีพชาวนา

• ให้เห็นถึงความทุกข์ยากของชาวนา

บทกวีของ จิตร ภูมิศักดิ์ และหลี่เชิน มีส่วนที่แตกต่างกันอย่างไร

• วิธีการนำเสนอ

• สะท้อนให้เห็นเมตตาธรรม ที่มีต่อชาวนา

• กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ยากของชาวนา

• แสดงถึงความเข้าใจปัญหาต่าง ๆ ของชาวนา

จากบทกวีของหลี่เชิน ที่กล่าวว่า “แม้ชาวนาจะทำนามากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องอดตาย” มีสาเหตุมาจากสิ่งใด

• ที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์

• ถูกเอาเปรียบเรื่องราคาข้าว

• ผลผลิตที่ได้ตกถึงชาวนาน้อยมาก

• เนื่องจากฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน

“น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง และน้ำแรงอันหลั่งริน

สายเลือดกูทั้งสิ้น ที่สูซดกำซาบฟัน”

คำที่ขีดเส้นใต้มีความหมายว่าอย่างไร

• กลืน

• เคี้ยว

• กระแทก

• ซึมเข้าไป

ข้อใดแสดงให้เห็นความขัดแย้ง

• เหงื่อหยดบนดินภายใต้ต้นข้าว

• ข้าวแต่ละเม็ดคือความยากแค้นแสนสาหัส

• รอบข้างไม่มีนาที่ไหนทิ้งว่าง แต่ชาวนาก็ยังอดตาย

• หว่านข้าวในฤดูใบไม้ผลิ ข้าวเมล็ดหนึ่งจะกลายเป็นหมื่นเมล็ดในฤดูใบไม้ร่วง